Sunday, August 9, 2009

ก้านกล้วย ๒ (KhanKuay 2)

ก้านกล้วย 2

ก้านกล้วย 2


เข้าฉาย : 26/3/2009

ผู้กำกับ : ทวีลาภ ศรีวุฒิวงศ์

ทีมพากย์ :อรรถพร ธีมากร ให้เสียงพากย์ "ก้านกล้วย"
                      แอน ทองประสม ให้เสียงพากย์ "ชบาแก้ว"
                      วรุฒ วรธรรม ให้เสียงพากย์ "จิ๊ดริด"
                      นัฎฐา ลอยด์ ให้เสียงพากย์ "แสงดา"
                      นนทรีย์ นิมิบุตร ให้เสียงพากย์ "พระเจ้าหงสาวดี"
                      อภิรดี ทศพร ให้เสียงพากย์ "พระสุพรรณกัลยา"
                      มนตรี เจนอักษร ให้เสียงพากย์ "พระนเรศวร และ อองสา"

เนื้อเรื่องย่อ

ชัยชนะจากสงครามยุทธหัตถีทำให้ ก้านกล้วย (อรรถพร ธีมากร) ได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าพระยาปราบหงสาวดี เป็นช้างทรงที่ พระนเรศวร (มนตรี เจนอักษร) ทรงใช้ในการศึกสงครามทุกครั้ง รวมถึงสงครามครั้งใหม่กับ พระเจ้าหงสาวดี (นนทรีย์ นิมิบุตร) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ก่อนที่การศึกจะเริ่มขึ้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทหารหงสาบุกมาจับชาวบ้านอยุธยาไปเป็นเชลย และได้นำ ชบาแก้ว (แอน ทองประสม) และ ต้นอ้อ กับ กอแก้ว ลูกแฝดของ ก้านกล้วย ไปด้วย ก้านกล้วย ไม่มีหนทางอื่น นอกจากต้องแอบหลบหนีจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปช่วยลูกเมียกลับมาให้เร็วที่สุด ครั้งนี้ ก้านกล้วย ต้องต่อสู้เพียงลำพังบนดินแดนของศัตรู และต้องเผชิญหน้ากับช้างศึกที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง งานิล และมหาอำมาตย์จอมเวทย์มนตร์ อองสา (มนตรี เจนอักษร) นี่คือภารกิจที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่าครั้งใด

ความเห็น(ส่วนตัว)

หนังแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเรื่องนี้ ต้องนับว่าตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ก็เป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคอแอนิเมชั่นสัญชาติไทยได้อย่างมาก เพราะได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไร ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างแน่นอน ยิ่งมาถึงภาคที่ 2 นี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพของฝีมือคนไทยให้ทั้งต่างชาติ รวมไปถึงคนไทยหลายๆคนที่ยังค่อนแคะ หรือมีอคติกับหนังของคนไทยได้กลับมาชื่นชม และยอมรับกัยความสามารถของคนไทยได้อย่างภาคภูมิ
การที่กล่าวชื่นชมหนังเรื่องนี้ ไม่้ใช่เพราะมีความชาตินิยมอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหนังไทยหลายเรื่องที่ทำออกมา ผมเองก็ยอมรับว่าเคยมีอคติจริง บางครั้งถึงกับคิดในใจว่าอายขายหน้าต่างชาติเขาเลยก็มี แต่ก้านกล้วยเป็นแอนิเมชั่นของไทย ที่มีคุณภาพไม่แพ้แอนิเมชั่นต่างชาติที่ดังๆหลายเรื่อง ที่เคยเข้ามาทำให้เด็กไทย รวมถึงผู้ใหญ่บางคนที่ได้ดูติดอกติดใจกันนักหนา ก้านกล้วยภาคนี้ มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นกว่าภาคก่อน เนื้อหาก็สอดแทรกสิ่งดีๆไว้หลายอย่าง ทั้งเรื่องของความรักระหว่างคู่ครอง กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และความรักชาติบ้านเมือง ความเชื่อมั่นและความรักในกษัตริย์ รวมทั้งความเสียสละ ไม่ใช่การ์ตูนที่ดูฆ่าเวลาทั่วไปอย่างแน่นอน สามารถดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยแม้แต่ผู้ใหญ่ดูก็ไม่น่าเบื่อ ทั้งกับช่วงเวลาที่เข้าฉาย ก็จะอยู่ในช่วงที่บ้านเมืองเรามีความแตกแยกทางสังคม เรื่องนี้จึงเหมือนออกมาทำให้คนในชาติเกิดความรักสามัตคคีกันในบ้านเมือง
โครงเรื่องหลักจะเป็นการนำเอาเรื่องในประวัติศาสตร์ไทยสมัยก่อน ที่ต้องสู้รบทำสงครามกับพม่ามาเป็นแกนหลัก โดยได้มีการดัดแปลง และนำเสนอออกมาได้อย่างดี มีการนำเอาเรื่องเวทมนต์ดำเข้ามาใช้ ช่วยเพิ่มในเรื่องความแฟนตาซี ความตระการตาได้มาก ความอลังการต่างๆนั้น ครอบคลุมไปในทุกด้าน ทั้งเรื่องโมเดลตัวละครที่ทำได้น่ารัก มีเอกลักษณ์เด่นๆของแต่ละตัว ที่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่ขัดตา เรื่องแสงเงา ดนตรี และเสียงประกอบเอฟเฟ็คต่างๆทำได้ลงตัวมาก
สิ่งที่น่าชื่นชมซึ่งผมเองขอบอกว่าหากคนดูทั่วไปไม่คิดอะไรมากก็อาจจะไม่คิดถึงในจุดนี้ สิ่งที่ว่าก็คือการจะเอาช้างซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ ดูเชื่องข้า เทอะทะในสายตาคนทั่วไปมาเป็นตัวละครเด่น มาทำให้มีการเคลื่อนไหวที่ดูคล่องแคล่ว ไหลลื่นได้ดี ทั้งๆที่ยังคงลักษณะการเคลื่อนที่แบบเดิมของช้างไว้ คือ การยืน 4 ขา นั่นแหละที่ผมว่าเป็นจุดนึงที่น่าสนใจมาก (ไม่รู้จะมีใครเคยคิดถึงจุดนี้เหมือนผมมั้ย?) เราอาจจะเคยเห็นการ์ตูนหรือแอนิเมชั่นหลายเรื่อง ที่ตัวแสดงหลักเป็นสัตว์ประหลาดหรือตุ๊กตา หุ่น หรือ สัตว์ซึ่งปกติมีการยืน เดินแบบ 4 ขา มาเแปลงให้ยืน 2 ขาแบบมนุษย์ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการแสดง ทั้งด้านท่าทางและอารมณ์ แต่เรื่องก้านกล้วย ทั้งภาค 1 และ 2 ได้นำเอาช้างซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติไทย มานำเสนอโดยยังคงยึดลักษณะของช้างไทยไว้อย่างดี ดังนั้นการจะแสดงอารมณ์ ท่าทางต่างๆ ผมจึงเดาว่าน่าจะเป็นอีกโจทย์หนึ่งของกลุ่มผู้ทำแอนิเมชั่นเรื่องนี้
ด้วยเหตุผลต่างๆที่ผมกล่าวมา สมควรอย่างยิ่งที่คุณๆทั้งหลาย ยิ่งโดยเฉพาะคนไทยด้วยแล้ว ควรหามาดูหรือหาเก็บไว้ให้ได้ รับรองว่าจะได้ทั้งความสนุก ความน่ารัก ความรักในชาติไทยของเรา และข้อคิดดีๆต่างๆมากมาย (เหมาะมากกับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะให้ลูกๆดูหนังดีๆ ปลูกฝังความรักชาติให้กับลูกๆตั้งแต่เด็ก) และคุณจะไม่ผิดหวังกับแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเรื่องนี้แน่นอนครับ...คอนเฟิร์ม :>

Tuesday, July 28, 2009

Australia




เข้าฉาย : 25/12/2008

ผู้กำกับ : Baz Luhrmann

นักแสดงนำ : Nicole Kidman
Hugh Jackman
David Wenham
Jack Thompson
Bryan Brown

ความยาว : 2 ชั่วโมง 45 นาที

เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวของ Lady Sarah Ashley (Nicole Kidman) เดินทางจาก England มายัง Australia เพื่อที่จะตามมาดูสามีของเธอที่ทำปศุสัตว์ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับรัฐ Maryland ซึ่งถูกเรียกว่า "Faraway Downs" ว่าเกิดเหตุอันใดจึงมีปัญหา แต่ก็ต้องมาเจอกับ Drover (Hugh Jackman) ผู้ซึ่งมารับ Ashley แทนสามีของเธอ และเกิดเหตุไม่ต้องชะตาซึ่งกันและกัน ในระหว่างที่ Drover นำพา Ashley เดินทางมายัง Faraway Downs ไม่แค่ Drover ที่ Ashley มีปัญหาด้วย แต่เธอยังต้องมาพบกับเด็กชนเผ่าพื้นเมืองอีกคนที่ชื่อว่า Nullah (Brandon Walters) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทัศนะความคิดของ Ashley เริ่มผกผัน และหันมามองพื้นที่ดินใน Faraway Downs ว่ามีค่ามากเพียงใดทั้งสำหรับเธอ และทุกคนที่อยู่ในพื้นดินนี้ด้วย หลังจากที่สามีของเธอถูกฆ่าตายอย่างลึกลับ และถูกรุกรานจากบุคคลที่มีอิทธิพลต่างๆ Ashley จึงต้องร่วมมือกับ Drover ในการที่จะต้องต้อนฝูงวัวถึง 1,500 ตัว ข้ามประเทศทางตอนเหนือเพื่อที่จะนำไปขายยังท้องตลาดให้ทันเวลา เพื่อที่จะได้ผลกำไรจากการค้าครั้งนี้กลับมาพัฒนา Faraway Downs ต่อไป

ความเห็น(ส่วนตัว)

เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าเป็นหนังที่ดีอีกเรื่อง การที่หนังได้เข้าชิงรางวัลและได้รับรางวัลต่างๆมากมายนั้น ถือว่าเหมาะสมแล้ว หนังเรื่องนี้ดังอยู่แล้ว ทั้งจากการโปรโมต และชื่อเสียงจากการที่ได้เข้าชิงรางวัลมากมาย ไม่รู้จะผิดมั้ย ถ้าจะบอกว่าให้ไปหาดูกันซะหากยังไม่ได้ดู ก่อนที่จะเริ่มวิจารณ์ตัวหนังซะด้วยซ้ำ :> เพราะ เรื่องนี้ดีจริงๆครับ
ตัวเนื้อเรื่องหนังไม่ได้ซับซ้อนหรือไม่ต้องคิดมากอะไร แต่เด่นที่ฉากการฉ่ายทำที่สวยงาม sound หนังก็ทำออกมาได้ดีคลอไปกับเรื่องได้อย่างลงตัว แม้ว่าตัวหนังจะมีความยาวมากกว่าหนังโรงปกติ(หากดูจาก VCD จะมี 3 แผ่น) แต่ก็ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวผมว่าน่าติดตามด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ถ่ายทำจากสถานที่จริง คือประเทศ Australia หนังมีการเลือกสถานที่ถ่ายทำได้สวยมาก จนแอบคิดไม่ได้ว่า ได้มีการใช้ cg มาช่วยป่าว แต่จากเท่าที่ได้อ่านติดตามเรื่องนี้จากหลายๆแหล่ง เขาบอกกันว่าใช้ cg ช่วยน้อยมาก เนื้อเรื่องช่วงแรกของเรื่องก็ไม่ค่อยต่างจากละครไทย คือ นางเอกกับพระเอกจะไม่ค่อยชอบหน้ากัน แต่แล้วตอนจบของเรื่อง เพื่อนๆก็คงจะเดากันได้... บทของหนังมีหลายอารมณ์ ทั้งเศร้าเสียใจ สนุกสนาน ซึ้ง และแฝงเรื่องความเชื่อของชนเผ่าท้องถิ่นด้วย เรื่องของความเชื่อและตัวแสดงเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องนี้นั่นแหล่ะ ที่ผมว่าเป็นอีกเสนห์ของเรื่อง คุณต้องลองไปหาดูเองถึงจะรู้ว่า เหตุใดเรื่องนี้ถึงได้รางวัลต่างๆมากมาย รับรองว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ

Wednesday, July 22, 2009

Doubt..ปริศนาเกินคาดเดา



เข้าฉาย : 19/02/2009

ผู้กำกับ : John Patrick Shanley

นักแสดงนำ : Meryl Streep
Philip Seymour Hoffman
Viola Davis
Amy Adams
Alice Drummond

ความยาว : 1 ชั่วโมง 44 นาที

เนื้อเรื่องย่อ

ในปี 1964 โบสถ์เซนต์นิโคลัสในบรองซ์ บาทหลวงฟลินน์ (ฟิลิป เซย์มัวร์ ฮอฟแมน) นักบวชผู้ร่าเริงและมีเสน่ห์ กำลังพยายามแก้ไขกฎระเบียบที่เคร่งครัดของโรงเรียน ซึ่งถูกปกป้องอย่างหวงแหนโดยซิสเตอร์อลอยเซียส โบเวียร์ (เมอริล สตรีพ) อาจารย์ใหญ่เขี้ยวลากดิน ผู้เชื่อในพลังของความกลัวและระเบียบวินัย สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพัดผ่านชุมชนแห่งนี้และโรงเรียนแห่งนี้ก็เพิ่งยอมรับโดนัลด์ มิลเลอร์ นักเรียนผิวสีคนแรกของโรงเรียน แต่เมื่อซิสเตอร์เจมส์ (เอมี อดัมส์) หญิงสาวผู้ไร้เดียงสาแอบกระซิบให้ซิสเตอร์อลอยเซียสฟังถึงความสงสัยของเธอที่ว่าบาทหลวงฟลินน์ดูจะให้ความสนใจกับโดนัลด์จนเกินงาม ซิสเตอร์อลอยเซียสก็เลยเริ่มต้นแผนการที่จะเปิดโปงความจริงและขับไล่ฟลินน์จากโรงเรียน โดยปราศจากหลักฐานซักชิ้นเว้นแต่ความเชื่อมั่นในศีลธรรมจรรยาของเธอเอง ซิสเตอร์อลอยเซียสได้เข้าทำสงครามสู้ศึกทางจิตใจกับบาทหลวงฟลินน์ ซึ่งอาจจะทำให้ทั้งโบสถ์และโรงเรียนต้องสั่นคลอนไปด้วยผลร้ายแรงที่ตามมา


ความเห็น(ส่วนตัว) :

หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีในความคิดของผม แต่อาจจะไม่ใช่แนวหนังที่คนไทยส่วนใหญ่จะยอมเสียเงิน นัดชวนกลุ่มเพื่อนๆไปดูกัน ยิ่งถ้าเป็นเด็กๆด้วยแล้วอาจจะไม่ชอบหนังแนวนี้เลย หากใครที่ไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้จักหนังเรื่องนี้มาก่อน เมื่อดูไปซักพักอาจจะคิดว่าเป็นหนังน่าเบื่อ และเลิกดูไปซะก่อน แต่ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าตัวหนังทำออกมาได้ไม่ดี ตรงกันข้าม ผมกลับมองว่า หนังเรื่องนี้มีศิลป์อยู่ในตัว นำเสนอเนื้อเรื่องได้น่าติดตามอย่างยิ่ง สามารถทำให้คนที่ดู ติดอยู่กับเนื้อเรื่อง และคาดเดาไปต่างๆนาๆได้ตลอดทั้งเรื่อง
ส่วนตัวแล้วที่บอกไปว่า หนังเรื่องนี้มีศิลป์อยู่ในตัวนั้น เนี่องจากว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนหนังแอ็คชั่นลงทุนสูงที่ต้องมีการระเบิดรถระเบิดตึก ไม่ได้มีสเปเชียลเอฟเฟ็คอลังการอะไรอย่างนั้น(จะพูดว่าไม่มีเลยด้วย ก็คงไม่ผิด) และด้วยตัวแสดงหลักของเรื่องที่มีอยู่เพียงไม่กี่คน กับเครื่องแต่งกายของตัวละครทุกคนที่เรียบง่าย ไ่ม่ได้มีฉากวาบหวิวของพระเอกนางเอก ไม่ได้เอาจุดพวกนี้มาเป็นจุดขาย บวกกับสถานที่ดำเนินเรื่องหลักๆ ก็อยู่แต่ในบริเวณของโบสถ์เท่านั้น เรียกว่าเล่นกันที่ตัวบทและอารมณ์ของหนังเน้นๆ ผู้กำกับซึ่งควบตำแหน่งผู้เขียนบทของเรื่องนี้ด้วย นำเสนองานออกมาได้อย่างลงตัว มีการคิดอย่างรอบคอบในการนำเสนอ เพื่อให้คนดูได้มีส่วนร่วมคิดว่า ตัวเรื่องจะดำเนินและสิ้นสุดลงอย่างไร นอกจากนี้ ชื่อเรื่อง ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่หลังจากตัวผมเองดูจบแล้ว ถึงได้เข้าใจและชื่นชมผู้กำกับคนนี้มากขึ้นไปอีก เพราะเขาได้เอาชื่อเรื่อง(Doubt)มาเล่นกับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี ส่วนคุณๆจะเข้าใจเนื้อหา สิ่งที่ผู้กำกับคนนี้(John Patrick Shanley) ต้องการจะสื่อ และตอนจบของหนังเรื่องนี้เหมือนกับผมมั้ย ต้องลองพิสูจน์ดูกับ Doubt..ปริศนาเกินคาดเดา หนังอีกเรื่องที่ผมแนะนำให้ได้ลองดูหรือหาเก็บไว้.

Wednesday, July 8, 2009

Purpose of Blog

คุณมีความคิดแบบนี้มั้ย?

หนังตลกวัยรุ่นของทางฝั่งอเมริกาส่วนใหญ่ มีแต่ทะลึ่ง ไร้สาระ ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ชอบหนังดีๆ แฝงแนวคิดหรือเสน่ห์บางอย่างของหนังที่ควรจะมี
หนังตลกเกาหลี ถ้าไม่เจ้าพ่อมาเฟียร์หรือทายาทเจ้าพ่อต้องไปสอนหรือเรียนหนังสือ ก็ต้องรีบหาคู่แต่งงานหรือถูกบังคับแต่งเพื่อมรดก ไม่ก็แค่เปลี่ยนจากชายเป็นหญิงเป็นเจ้าแม่มาเฟียร์แทน ผู้หญิงอาจมี option เรื่องเกี่ยวกับลูกเพิ่มเข้ามาได้ และหนังแนวอื่นๆอีกไม่กี่แนว ที่เพื่อนๆจะนึกออกว่ามัน "น่าเบื่อ"

หากพวกคุณมีความคิดแบบนี้..เราคอเดียวกัน!
ผมอยากรวบรวมคนที่มีความคิดคล้ายๆกัน(ไม่อยากดูหนังจนจบหรือยังไม่ทันจบ แล้วต้องมาเสียดายเวลาและ bandwidth :>) บล็อคนี้จึงเกิดขึ้น เพื่อแนะนำและรับฟังความคิดเรื่องหนัง โดยหนังที่ผมจะคอยเอามาพูดถึงคงจะไม่ใช่หนังเข้าใหม่ชนโรงเพราะพวกนี้หาอ่านได้ตาม community web ทั่วไป หนังที่ผมตั้งใจจะเอามาวิจารณ์(ด้วยความเห็นส่วนตัว..ย้ำว่าส่วนตัวล้วนๆนะครับ) อาจไม่ใช่หนังที่มีดาราดังๆมาแสดงนำหรือหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลต่างๆ ผมอยากจะเน้นไปที่ตัวบท ตัวเนื้อเรื่อง การดำเนินเรื่อง และสาระต่างๆที่หนังที่ดีควรมีหรือแฝงไว้ให้คนดู

ไหนๆก็พูดมาเยอะแล้ว ขอต่ออีกหน่อยละกัน บล็อคนี้ไม่อยากให้คนที่แวะเข้ามาดู ยกหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้มาว่ากัน เอาเป็นว่าอยากให้ยกหนังที่ดีๆมาแนะนำ แบ่งปันกันดีกว่านะครับ (ส่วนเรื่องไหนไม่ดีก็อย่าไปพูดถึงเลยครับ :>)

Contact Me

ส่งเมลมาพูดคุยหรือแนะนำกันได้ที่ หรือ comment กันที่นี่ก็ได้นะครับ
 

Featured